★ พรีวิวอุปกรณ์ตกปลาต่างๆ ➞
เพื่อให้ทุกท้องทะเลทั่วโลก ไม่มีสิ่งใดให้ต้องหวั่นเกรง
เพื่อให้เผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างมั่นใจ
เพื่อให้เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบ
และอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดกาล
เรามุ่งหวังให้นักตกปลาทั่วโลก ได้พิชิตปลาสถิติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แปรเปลี่ยนความหลงใหล รอยยิ้ม และความฝันของเหล่าแองก์เลอร์
ให้กลายเป็นความแข็งแกร่งในทุกการหมุนของรอก!
รอกที่แข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมเผชิญกับโอกาสที่หาได้ยาก เพื่อพิชิตเป้าหมายที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อนอย่างมั่นใจและปลอดภัย
รอกที่สามารถรักษาประสิทธิภาพดั้งเดิมได้ยาวนาน แม้ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายที่สุด
เราจะสร้างรอกที่ก้าวข้ามความคาดหวังของเหล่าแองก์เลอร์ได้อย่างไร?
คำตอบของเราคือ ทำลายกรอบเดิมๆ ทิ้งไป การพัฒนาไม่ใช่แค่การปรับปรุง แต่คือการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
เพราะความคาดหวังจากเหล่าแองก์เลอร์ คือแรงผลักดันที่ทำให้ทีมพัฒนาของเราทุกคนทุ่มเทและมุ่งมั่นสร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุด
ปี 2025 –
เทคโนโลยีหลักที่เป็นแกนกลางของ Saltiga คือ "Power Drive Design" แนวคิดในการออกแบบรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่ยุคใหม่ที่มุ่งเน้นความน่าเชื่อถือสูง สามารถรับมือกับปลาขนาดใหญ่ทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ของ Saltiga ที่พัฒนาขึ้นเพื่อทำหน้าที่ในการพิชิตปลาขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Power Drive Design นี้ประกอบด้วยสองหน่วยเทคโนโลยี ได้แก่ หน่วยบอดี้ [Power Drive Engine] และหน่วยโรเตอร์ [Power Drive Rotor]
[Power Drive Engine] ประกอบด้วยสองเทคโนโลยีสำคัญ ได้แก่ [Oversized Power DigiGear] ซึ่งเป็นเฟืองขนาดใหญ่ที่ผ่านการออกแบบให้มีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนสูง และ [Roller Power Oscillation] ที่ใช้ระบบลูกปืนเพื่อลดแรงเสียดทานอย่างมาก ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มต้นและให้แรงหมุนที่ทรงพลัง
เมื่อวาง [Power Drive Engine] ไว้เป็นฐาน โครงสร้างด้านหน้าคือ [Power Drive Rotor] ซึ่งทำจากวัสดุโลหะ (AL) ที่มีรูปทรงกลมอย่างลงตัว ทำให้สามารถรักษาสมดุลและความแข็งแรงได้ดี โดยมี [Crank Power Bail] และ [Tough Line Roller System] ติดตั้งอยู่ ทำให้การปล่อยสายมีความแม่นยำ และการหมุนกลับสายทำได้อย่างราบรื่น
ในกระบวนการพัฒนาแนวคิดการออกแบบรอก เราได้ปรับปรุงกลไกเบรคใหม่ทั้งหมด สำหรับรุ่น 14000 ลงมา ใช้ระบบ ATD Tough ที่ประกอบด้วยแผ่นวอชเชอร์คาร์บอนและโลหะรวม 14 แผ่น ส่วนรุ่น 18000 ขึ้นไป ติดตั้งระบบเบรคใหม่ "DRD" ซึ่งประกอบด้วยแผ่นโลหะ 1 แผ่นพร้อมลูกกลิ้งโลหะ 8 ลูก โครงสร้างใหม่นี้ช่วยลดการสูญเสียแรงเบรคที่เกิดจากความร้อนจากแรงเสียดทาน ทำให้คงประสิทธิภาพการลื่นไหลได้อย่างราบรื่น แม้ในสถานการณ์การต่อสู้กับปลาขนาดใหญ่ที่ยาวนาน
นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนาให้ประสิทธิภาพในการตีไกลดียิ่งขึ้น โดยนำระบบ LC-ABS มาออกแบบใหม่ กลายเป็น LC-ABS SW ซึ่งมีการออกแบบขอบสปูลให้เป็นแบบเทเปอร์สองชั้น ทำให้ลดแรงเสียดทานของสาย ช่วยเพิ่มระยะการตีในช่วงท้าย โดยเฉพาะเมื่อใช้สายขนาดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นผ่าศูนย์กลางในขณะตี
สนามของบิ๊กเกมมักเต็มไปด้วยคลื่นและลมทะเลที่มีเกลือปน ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่น้ำเค็มจะซึมเข้ารอก เพื่อป้องกันปัญหานี้ เราจึงติดตั้งระบบ Magsealed ที่ส่วนหมุนทั้ง 3 จุด ได้แก่ ส่วนโรลเลอร์ไลน์, ส่วนพิเนียน และส่วนแกนด้ามจับ ทำให้เป็นรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่ที่กันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบเพียงรุ่นเดียว
ในส่วนของไลน์อัพ ประกอบด้วยขนาดเดิม ได้แก่ 8000, 10000, 14000, 18000, 20000 และขนาดใหม่ 25000 ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การต่อสู้กับปลาขนาดใหญ่พิเศษ เช่น ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน โดยคำนึงถึงความจุสาย พลัง และความเร็วในการหมุน เพื่อตอบสนองความคาดหวังของนักตกปลาบิ๊กเกมชั้นนำทั่วโลก
เพื่อให้เผชิญหน้ากับท้องทะเลทั่วโลกได้อย่างไม่หวั่นเกรง
เพื่อเป็นคู่หูที่ดีที่สุดที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
เพื่อให้นักตกปลาจำนวนมากได้ครอบครองปลาสถิติในฝัน――。
เปลี่ยนทุกความหลงใหล รอยยิ้ม และความฝันของนักตกปลา
ให้กลายเป็นพลังแห่งรอกอันแข็งแกร่ง
การท้าทายครั้งใหม่ของ SALTIGA เริ่มต้นจากที่นี่。
INNOVATIVE TECHNOLOGY
"ทำลายสถิติ" ของตัวเอง
ด้วยเทคโนโลยีจาก DAIWA
รู้จักกับท้องทะเลที่โหดร้ายและปลาที่แข็งแกร่งอย่างกล้าหาญ รับฟังเสียงของนักตกปลา และยอมรับความฝันของแต่ละคน ทุกความคิดเหล่านั้น ได้หลอมรวมเป็นรอกที่แข็งแกร่ง มีบางสิ่งที่สามารถเป็นจริงได้เพียงแค่ SALTIGA เท่านั้น
ด้วยแนวคิดการออกแบบ "POWERDRIVE DESIGN" ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่ยุคใหม่ พร้อมด้วยกลไกเบรคใหม่ล่าสุด "DRD" ที่ใช้ยูนิตโลหะในการสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพการตีไกลด้วย "LC-ABS SW" บอดี้แบบฟูลเมทัลโมโนค็อกอลูมิเนียม และระบบป้องกันน้ำเข้า "MAGSEALED" เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยจาก DAIWA
มอบความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดให้กับนักตกปลาทุกคน ――。
ในการตกปลาบิ๊กเกม
ความแข็งแกร่ง • พลัง • และความทนทาน
รวมกันอย่างสมบูรณ์แบบในระดับสูง
POWERDRIVE DESIGN
Power Drive Design คือแนวคิดการออกแบบรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่รุ่นใหม่ ที่มุ่งเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือสูงในการรับมือกับปลาขนาดใหญ่ทั่วโลกอย่างมั่นใจ
แนวคิด Power Drive Design ประกอบด้วย 2 หน่วยเทคโนโลยีหลัก ได้แก่
Power Drive Engine: หน่วยตัวเรือนที่ให้พลังดึงสูงและประสิทธิภาพการหมุนที่ยอดเยี่ยม
Power Drive Rotor: หน่วยโรเตอร์ที่มีรูปทรงทรงกลมที่สมเหตุสมผล เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความแข็งแรงสูงและแรงเฉื่อยต่ำ
โครงสร้างของ Power Drive Engine
Power Drive Engine ประกอบด้วยเทคโนโลยี 2 อย่าง
Oversized Power Digi Gear: เพิ่มขนาดเฟืองและความหนาของฟันเฟือง พร้อมการปรับรูปร่างฟันเฟืองให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน
Roller Power Oscillation: ใช้ระบบตลับลูกปืนในกลไก Oscillation เพื่อลดแรงเสียดทานได้อย่างมาก ช่วยเพิ่มการตอบสนองในช่วงเริ่มต้นและทำให้การดึงเบาขึ้น
โครงสร้างของ Power Drive Rotor
Power Drive Rotor ประกอบด้วยเทคโนโลยี 2 อย่าง
Crank Power Bail: เพิ่มพลังในการเปิดและปิดเบลล์ พร้อมใช้งานโครงสร้างแบบ Crank เพื่อให้นำสายไปยัง Roller ได้อย่างแม่นยำ
Tough Line Roller System: ปรับโครงสร้างรองรับของ Line Roller เพื่อเพิ่มความทนทานและลดปัญหาในการใช้งาน
ด้วยผลลัพธ์จากการผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการในเกมตกปลาขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาแบบ Casting หรือ Jigging โดยให้ความแข็งแกร่ง พลัง และความทนทานในระดับสูงสุด มอบ "ความแข็งแกร่ง" ที่จำเป็นในการพิชิตปลาขนาดใหญ่ให้กับเหล่านักตกปลาทุกคน
オーバーサイズドパワーデジギア
―――――――――――――――――――――――――――――――――
เส้นผ่านศูนย์กลางของเฟืองขับ (Drive Gear) ถูกขยายใหญ่ขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับรุ่น 20SALTIGA ขณะที่ความหนาของเฟืองขับก็เพิ่มขึ้นประมาณ 6% ส่งผลให้การถ่ายโอนพลังงานมีการสูญเสียน้อยลงอย่างมาก ทำให้การหมุนดึงสายมีความลื่นไหลและเบาขึ้นอย่างชัดเจน
(※ ข้อมูลตามวิธีการคำนวณของบริษัท)
OVERSIZED POWER DIGIGEAR
ローラーパワーオシレーション
―――――――――――――――――――――――――――――――――
ระบบออสซิลเลต (Oscillate) ได้รับการปรับปรุงจากแบบเสาพิลลาร์ (Pillar Type) เป็นแบบออสซิลเลตด้วยลูกปืน 2 จุด (2-Ball Bearing Oscillate) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการออสซิลเลตขึ้นประมาณ 30%
(※ ข้อมูลจากการทดสอบเปรียบเทียบของบริษัท)
ROLLER POWER OSCILLATION
ด้วยรูปทรงเฉพาะที่ดูเหมือนถูกตัดออกจากทรงกลม ทำให้ยังคงคุณสมบัติของความเฉื่อยต่ำ (Low Inertia) ไว้ได้ ในขณะเดียวกันยังเพิ่มความแข็งแรงขึ้นอีกประมาณ 7% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ด้วยการพัฒนาในลักษณะนี้ ทำให้มีความสามารถในการรับแรงดึงสูงจากการหมุนที่หนักได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังสามารถทนต่อแรงกระแทกจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
(※ ตามผลการทดสอบเปรียบเทียบของบริษัท)
POWERDRIVE ROTOR
クランクパワーベール
―――――――――――――――――――――――――――――――――
Crank Power Bail ถูกออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายข้อเหวี่ยง (Crank) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำสายที่มีแรงตึงไปยัง Line Roller ได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงมุมการเปิด-ปิดของเบลใหม่ และเสริมความแข็งแรงของกลไกสปริง เพื่อลดการเปิด-ปิดโดยไม่ตั้งใจโดยเฉพาะในสถานการณ์การตกปลาแบบจิ๊กกิ้ง (Jigging) ที่ต้องการการส่งสายไปยัง Line Roller อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
CRANK POWER BAIL
タフラインローラーシステム
―――――――――――――――――――――――――――――――――
เพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงโหลดสูงที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้มีการออกแบบให้พื้นที่รองรับแกนโรลเลอร์มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ปรับทิศทางของสกรูในการยึด ทำให้แกนโรลเลอร์และแขนเบลรวมเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงในจุดที่รับแรงมากที่สุด เนื่องจากไม่มีรอยต่อ ส่งผลให้ความทนทานรอบๆ Line Roller เพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำหรับ Line Roller รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับสาย PE ได้มีการลดแรงเสียดทานของสายลงประมาณ 3% (ตามการทดสอบเปรียบเทียบของบริษัท)
※ ในรุ่น 25SALTIGA มีการติดตั้ง Line Roller แบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานของสาย PE โดยเฉพาะ (ไม่ใช่ Twist Buster) หากใช้งานกับสายโมโนฟิลาเมนต์ (ไนลอนหรือฟลูออโรคาร์บอน) อาจทำให้เกิดปัญหาสายพันกันได้ แนะนำให้เปลี่ยนเป็น Line Roller แบบ Twist Buster สำหรับสายโมโนฟิลาเมนต์ ซึ่งสามารถดำเนินการเปลี่ยนได้ผ่าน SLP (จำหน่ายแยก)
TOUGH LINE ROLLER SYSTEM
กลไกเบรคแบบใหม่ล่าสุด
ใช้ชุดยูนิตโลหะ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
DRD
เบรคของรุ่น 14000 ใช้วัสดุคาร์บอนวอชเชอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ส่วนรุ่น 18000 ขึ้นไป ใช้เบรคแบบ DRD ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เบรคคาร์บอนวอชเชอร์นั้นมีความทนทานสูงอยู่แล้ว แต่ DRD ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การสู้กับปลาขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เป็นกลไกเบรคแบบใหม่ที่ติดตั้งลูกกลิ้งโลหะ 8 ชิ้นบนแผ่นโลหะเดียว ซึ่งช่วยลดการลดลงของแรงเบรคที่เกิดจากความร้อนจากแรงเสียดทาน ความทนทานของ DRD สูงกว่าเบรคคาร์บอนวอชเชอร์ถึง 5 เท่า อีกทั้งยังช่วยให้การเริ่มต้นการดึงนั้นนุ่มนวลยิ่งขึ้น
(※ อ้างอิงจากผลการทดสอบของบริษัท)
DRD (Dynamic Roller Drag) คือกลไกเบรครูปแบบใหม่ที่พัฒนาเพื่อรองรับการสู้กับปลาขนาดใหญ่พิเศษ เช่น ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (クロマグロ) หรือปลากระโทงแทง (カジキ) โดยออกแบบมาเพื่อลดการสึกหรอและการติดขัดในช่วงการใช้งานเบรคแรงสูง รองรับการต่อสู้ระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ ในรุ่น SALTIGA จะมีการติดตั้ง DRD เป็นมาตรฐานในรุ่นขนาดใหญ่ตั้งแต่ 18000-25000 ส่วนในรุ่น 14000 จะมีชุดสปูลแบบ DRD วางจำหน่ายเป็นอุปกรณ์เสริมจาก SLP WORKS
ในรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่ แดรคคาร์บอนวอชเชอร์ถือเป็นมาตรฐาน แต่ DRD ได้พัฒนาให้ดีกว่าโดยใช้องค์ประกอบโลหะเฉพาะของ DAIWA ที่เรียกว่า "DRD วอชเชอร์" ซึ่งประกอบด้วยลูกกลิ้งโลหะ 8 ชิ้นติดตั้งบนแผ่นโลหะเดียว โดยลูกกลิ้งเหล่านี้จะถูกวางในมุมเอียงตามทิศทางการหมุนของสปูล นี่คือคุณสมบัติที่โดดเด่นของ DRD
กลไกเบรคแบบเดิมใช้แรงเสียดทานจากการสัมผัสระหว่างคาร์บอนวอชเชอร์และโลหะวอชเชอร์ แต่ใน DRD แรงเบรคจะเกิดขึ้นจากการหมุนและแรงเสียดทานของลูกกลิ้งโลหะ การออกแบบนี้ช่วยให้การปล่อยสายเป็นไปตามค่าที่ตั้งไว้ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถตอบสนองได้รวดเร็วเมื่อเจอกับการพุ่งตัวของปลาขนาดใหญ่ ลดความเสี่ยงในการทำให้สายขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ การใช้วัสดุโลหะทั้งหมด ในขณะที่กลไกเบรคคาร์บอนวอชเชอร์อาจเกิดปัญหาการสึกหรอ การแตกหัก ความร้อนสูง และการติดขัดเมื่อใช้งานต่อเนื่อง แต่ใน DRD การใช้วัสดุโลหะทั้งหมดช่วยเพิ่มความทนทานได้ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับเบรคคาร์บอน (※ อ้างอิงจากผลการทดสอบของบริษัท)
ในการสู้กับปลาขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่วงการฮิตไปจนถึงการดึงเข้าหาตัว จำเป็นต้องมีการปรับค่าเบรคที่กว้างและแม่นยำ สปูลแบบ DRD มาพร้อมสปริงเฉพาะสำหรับช่วงเบรคสูง และฝาเบรคถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับสปูล DRD โดยเฉพาะ ทำให้สามารถปรับเบรคได้อย่างกว้างขวาง นุ่มนวล และเสถียร (เมื่อใช้สปูล DRD ในรุ่น 14000 แนะนำให้ใช้ฝาเบรคแบบ DRD เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด)
DRD คือกลไกเบรคยุคใหม่ที่มาพร้อมความทนทานและโครงสร้างอันล้ำสมัย สร้างประสบการณ์ใหม่ในการสู้กับปลาขนาดใหญ่ เปลี่ยนโฉมแนวคิดในการต่อสู้กับบิ๊กเกมอย่างแท้จริง
DRD
เทคโนโลยีเฉพาะตัว
ที่สนับสนุนพลัง
และความแข็งแกร่ง
BASIC TECHNOLOGY
ได้เพิ่มการออกแบบเทเปอร์ให้กับ LC-ABS เดิม ทำให้ลูปของสายที่ปล่อยออกมามีขนาดเล็กที่สุด สร้างความรู้สึกในการเหวี่ยงที่นุ่มนวลและไร้แรงต้าน
LC-ABS ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับรูปทรงของขอบสปูล เพื่อให้สายปล่อยออกได้อย่างราบรื่น แต่ LC-ABS SW ได้เพิ่มรูปทรงเทเปอร์สองระดับที่ด้านบนของส่วนพันสาย ทำให้ลดแรงเสียดทานเมื่อสายถูกปล่อยออกจากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ลึก ส่งผลให้การตีมีความลื่นไหลมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการปล่อยสายช่วงปลายการตี
โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับสายเส้นใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางในการพันสายมาก จะช่วยเพิ่มระยะการตีขึ้นประมาณ 2% รองรับความต้องการของนักตกปลาที่ต้องการตีเหยื่อไปได้ไกลยิ่งขึ้น (※ อ้างอิงจากการทดสอบภายในบริษัท)
LC-ABS SW
เทคโนโลยีความแข็งแกร่งและทนทาน: โครงสร้างโมโนค็อก (Monocoque Body)
ในอดีต รอกสปินนิ่งทั่วไปจะมีโครงสร้างที่รองรับเฟืองขับทั้งสองด้านด้วยบอดี้และฝาครอบ ซึ่งยึดด้วยสกรูหลายจุด แต่เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความแข็งแกร่ง DAIWA ได้พัฒนาโครงสร้างใหม่ โดยการยกเลิกฝาครอบบอดี้ และใช้เพลทความละเอียดสูงยึดโดยตรงกับบอดี้แทน นี่คือ "โครงสร้างโมโนค็อก" (Monocoque Body)
โครงสร้างใหม่นี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการรองรับเฟือง รวมทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งและการป้องกันการรั่วซึม นอกจากนี้ยังใช้พื้นที่ที่เคยถูกสกรูยึดเพื่อขยายขนาดของเฟืองขับให้ใหญ่ขึ้นอย่างสูงสุด ทำให้การส่งผ่านกำลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คำว่า "โมโนค็อก" (Monocoque) มาจากคำว่า "MONO" (หนึ่งเดียว) และ "COQUE" (เปลือก) หมายถึงความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับเปลือกหอยที่เป็นหนึ่งเดียวกัน โครงสร้างใหม่นี้ถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบโครงสร้างรอกแบบเดิม
สำหรับ SALTIGA ได้ติดตั้งเทคโนโลยี Magsealed บนส่วนหมุน 3 จุด ได้แก่ ส่วนไลน์โรลเลอร์, ส่วนเฟืองพิเนียน และแกนหมุนของมือหมุน ทำให้เป็นรอกสปินนิ่งขนาดใหญ่รุ่นเดียวที่มีระบบป้องกันน้ำเข้าอย่างสมบูรณ์
MONOCOQUE BODY
โครงสร้างป้องกันน้ำด้วยเทคโนโลยี Magsealed: การปฏิวัติการป้องกันน้ำและฝุ่นในรอก
Magsealed คือเทคโนโลยีการป้องกันน้ำที่ใช้การสร้างกำแพงน้ำมันแม่เหล็กระหว่างช่องว่างของบอดี้และโรเตอร์ ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำทะเลและฝุ่นละอองเข้าสู่รอก โดยยังคงรักษาการหมุนที่เบาและลื่นไหลเช่นเดิม นอกจากนี้ยังสามารถคงประสิทธิภาพการหมุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
ปัญหาเสียงผิดปกติจากการหมุนของรอกมักเกิดจากเกลือจับตัวหรือฝุ่นสิ่งสกปรกที่เข้าสู่ภายในรอก แม้ว่ากรณีการตกน้ำโดยบังเอิญจะเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่หากไม่นับกรณีเหล่านั้น การติดตั้ง Magsealed สามารถลดอัตราการเกิดเสียงผิดปกติจากการหมุนได้อย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น จากข้อมูลหลังการใช้งานเป็นเวลานาน พบว่าประสิทธิภาพของ Magsealed จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อใช้งานไปนานขึ้น แสดงถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่นและน้ำที่ยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีนี้ ทำให้รอกคงความลื่นไหลและไร้เสียงผิดปกติได้ยาวนานอย่างแท้จริง
MAGSEALED
