เจ็ดระดับความเร็วที่เลือกได้ตามสถานการณ์

อัตราทดเฟือง (Gear Ratio) ของรอกในรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจากรุ่นเดิม โดยจากที่เคยมีเพียง HG (High Gear) และ PG (Power Gear) ในรุ่นก่อนหน้านี้ ได้เพิ่มรุ่น XG (Extra High Gear) สำหรับขนาด 1500 และ 2000 รวมถึง MG (Medium Gear) สำหรับขนาด 2000 เข้ามาใหม่

ความโดดเด่นของแต่ละรุ่น

• รุ่น 1500XG และ 1501XG ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทำความยาวในการเก็บสายได้สูงสุดเช่นเดียวกับรุ่น 2000NRHG ที่ถือว่าเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มนี้

• รุ่น 2000NRXG และ 2001NRXG มีความโดดเด่นด้วยอัตราการเก็บสายสูงสุดถึง 132 เซนติเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่น SW Spinning 14000XG ซึ่งช่วยให้คงความเร็วในการเก็บสายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในสภาพที่สายบนสปูลเหลือน้อย

เกียร์ MG (Medium Gear) รุ่นใหม่

• ในขนาด 2000 ได้มีการเปิดตัวเกียร์ MG ที่มีอัตราทดอยู่ระหว่าง HG และ PG ซึ่งช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างสองเกียร์นี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การตีเหยื่อแบบ One-Pitch Stroke อาจปรับจังหวะได้ยาก เกียร์ MG จะช่วยให้การตีเหยื่อทำได้ง่ายขึ้นและเหมาะสมกับจังหวะมากขึ้น

การใช้งานที่หลากหลาย

• ด้วยการเพิ่มทางเลือกของอัตราทดในขนาด 1500 จำนวน 3 แบบ (XG, HG, PG) และขนาด 2000 จำนวน 4 แบบ (XG, HG, MG, PG) ทำให้นักตกปลาสามารถปรับเปลี่ยนความเร็วในการเก็บสายตามสถานการณ์ได้อย่างยืดหยุ่นและสะดวกสบายมากขึ้น

สัมผัสประสบการณ์การจิ๊กกิ้งที่เหนือระดับ

• การเลือกใช้อัตราทดเฟืองที่เหมาะสมกับสถานการณ์จะช่วยให้การจิ๊กกิ้งมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านความสบายและความสามารถในการควบคุม เหมาะสำหรับนักตกปลาที่ต้องการฟีลลิ่งการจิ๊กที่ยอดเยี่ยมในระดับสูงสุด

จะทำอย่างไรให้ความรู้สึกการหมุนที่เบาและลื่นไหลของจิ๊กเกอร์นั้นยิ่งคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม?

ในขณะเดียวกันก็ต้องคงความแข็งแรงทนทานเอาไว้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการใช้งาน ความท้าทายนี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่การพลิกมุมมองอย่างสร้างสรรค์กลับกลายเป็นกุญแจสำคัญ

การพัฒนาระบบใหม่ที่ปฏิวัติโครงสร้างการรองรับเฟืองตั้งแต่พื้นฐาน นำไปสู่การถือกำเนิดของ "Infinity Drive"

ด้วยนวัตกรรมนี้ สามารถลดแรงต้านในการหมุนได้สูงสุดถึงประมาณ 60% มอบประสบการณ์การหมุนที่ลื่นไหลและเบาสบายอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการจิ๊กกิ้งอย่างแท้จริง

ในการพัฒนาให้การหมุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจัยสำคัญคือการรองรับพิเนียนเกียร์ด้วยตลับลูกปืนแบบจาระบีที่ด้านสปูล ซึ่งโดยทั่วไปจะมีแรงต้านในการหมุนสูง

แต่ในระบบ Infinity Drive ได้แก้ไขปัญหานี้โดยไม่ใช้ตลับลูกปืนที่มีแรงต้านสูงมารองรับ แต่ใช้โครงสร้างที่รองรับพิเนียนเกียร์จากด้านในโดยใช้แกนสปูลแทน

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพโดยการปรับระยะรองรับและความหนาของพิเนียนเกียร์ให้เหมาะสม ส่งผลให้สามารถรักษาความแข็งแรงของเกียร์ได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการหมุน ทำให้การรองรับมีความแข็งแกร่งสูงและลดแรงต้านในส่วนขับเคลื่อนของเกียร์ได้สำเร็จ

ผลลัพธ์คือ การหมุนที่ลื่นไหล เบาแรง แต่ยังคงความทนทานและความแข็งแรงในระดับสูงสุด

การปรับปรุงโครงสร้างระบบเสียงเบรค (Drag Sound)

ระบบเสียงเบรค (Drag Sound) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการหมุนของรอก

ในรุ่น 11 Ocea Jigger เดิม โครงสร้างของระบบเสียงเบรคประกอบด้วย "แรชเชตที่ทำเสียง" และ "สปริงทำงานที่ขับเคลื่อนพินเสียง" ซึ่งอยู่ในสภาพที่มีการเสียดสีตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดแรงต้านขณะหมุน

ในรุ่น New Ocea Jigger ได้ทำการปรับปรุงโดยการนำสปริงดังกล่าวออก ทำให้โครงสร้างเสียงเบรคแบบใหม่ไม่มีแรงต้านจากการเสียดสีในขณะที่หมุนด้ามจับ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการหมุนลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยไม่มีเสียงรบกวนจากการทำงานของระบบเบรคอีกต่อไป

การเลือกใช้ความเร็วที่หลากหลาย จะช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์การตกปลา ได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม 

ในครั้งนี้ Ocea Jigger รุ่น 1500 ได้เพิ่มรุ่น XG (Extra High Gear) และในรุ่น 2000 ได้เพิ่มทั้ง MG (Medium Gear) และ XG เข้ามาใหม่ ทำให้ตัวเลือกของอัตราทดเกียร์ หรือก็คือความเร็วในการหมุน มีให้เลือกถึง 7 ระดับ การเปลี่ยนความเร็วในการเก็บสายให้เหมาะสมกับความเร็วของกระแสน้ำทำได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงการหมุนช้าและเร็วตามต้องการก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ ตัวเลือกความเร็วที่เพิ่มขึ้นยังเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ เช่น รูปทรงของเหยื่อ (จิ๊ก) ที่แตกต่างกัน ความแข็งของคันเบ็ด หรือแม้แต่การลากเรือในทิศทางที่ต่างกัน การปรับความเร็วให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทำให้การปรับสมดุลของอุปกรณ์ตกปลาทำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการตกปลาดีขึ้นอย่างชัดเจน และยังสามารถสนุกกับการจิ๊กกิ้งในหลายรูปแบบได้มากขึ้น

อุปกรณ์ที่น่าสนใจ

ส่วนตัวแล้ว ผมให้ความสนใจกับ Ocea Jigger 2000NRXG มากที่สุด เนื่องจากมีอัตราทดสูงถึง 7.0:1 ซึ่งให้ความเร็วเทียบเท่ากับ Stella SW 14000XG ซึ่งการใช้ความเร็วสูงแบบนี้มีข้อดีหลายประการ

ตัวอย่างการใช้งาน

• สถานการณ์ 1: การตกปลาบริเวณแนวดิ่ง (Vertical Jigging)
  เมื่อใช้ สแปงเกอร์ (Spanker) เพื่อดึงจิ๊กขึ้นในแนวดิ่ง การใช้จิ๊กแบบยาว (Long Jig) จะต้องการความเร็วในการเคลื่อนที่ด้านข้าง (Slide) ซึ่งอัตราทดสูงช่วยให้การออกตัวของจิ๊กมีความรวดเร็ว Ocea Jigger 2000NRXG สามารถสร้างความเร็วในการเคลื่อนที่ด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• สถานการณ์ 2: เมื่อปลากินยาก
  การใช้ความเร็วในการเก็บสายแบบไม่สม่ำเสมอ (Speed Variation) ช่วยกระตุ้นให้ปลากินมากขึ้น การเคลื่อนไหวแบบแปรผันที่ทำได้ด้วยความเร็วสูง จะช่วยให้ปลาตอบสนองได้ดีขึ้น ซึ่งเดิมทีการตกแบบนี้ต้องใช้รอกสปินนิ่ง แต่ด้วย 2000NRXG ก็สามารถทำได้เช่นกัน

Ocea Jigger 2000NRMG

รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการลากเรือแบบ โดเทรา (Dotera) เนื่องจากในบางพื้นที่หรือเรือที่มีการลากเร็ว การใช้รุ่น PG (Power Gear) อาจทำให้การเก็บสายช้าจนขาดประสิทธิภาพ ในขณะที่ HG (High Gear) อาจมีแรงต้านมากเกินไป การใช้ MG (Medium Gear) จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะให้ความสมดุลระหว่างความเร็วและแรงหมุน ทำให้จิ๊กเคลื่อนไหวด้านข้างได้ดีและสามารถชักจิ๊กได้อย่างง่ายดาย

Ocea Jigger 1500XG

รุ่นนี้มีบทบาทสำคัญในการตกปลาขนาดกลางถึงเล็ก เนื่องจากในอดีต รอกขนาด 1500 มักจะมีความเร็วไม่เพียงพอ ทำให้ต้องใช้รอกขนาด 2000 แทน แต่ตอนนี้รุ่น 1500XG มีอัตราทดที่มากพอ จึงสามารถควบคุมจิ๊กยาวได้ดี แม้ว่าจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่ใช้งานง่ายและไม่ทำให้เหนื่อยล้า เหมาะสำหรับการตกปลาทะเลใกล้ชายฝั่ง เช่น ปลาบุรี (Buri) และปลาฮิรามาสะ (Hiramasa)

สรุป

การมีตัวเลือกอัตราทดที่หลากหลายช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วตามสถานการณ์ได้อย่างละเอียด ทำให้การจิ๊กกิ้งสนุกขึ้นและมีโอกาสได้ปลามากขึ้น การเลือกใช้รอกที่เหมาะสมกับความเร็วและรูปแบบการตกปลา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตกปลาและทำให้การตกปลาหลากหลายสไตล์เป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก

การเลือกใช้อัตราทดเฟืองทั้ง 7 แบบ หรือก็คือการปรับความเร็วในการหมุนให้เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการพบเจอปลามากขึ้นกว่าที่เคย

นวัตกรรมใหม่ในซีรีส์ Ocea Jigger: ความหลากหลายของอัตราทดเฟือง

ในครั้งนี้ ซีรีส์ Ocea Jigger ได้มีการเพิ่มอัตราทดเฟืองใหม่เข้ามา ได้แก่ XG (Extra High Gear) ในรุ่น 1500 และ MG (Medium Gear), XG ในรุ่น 2000 ทำให้มีตัวเลือกอัตราทดทั้งหมด 7 แบบ การเพิ่มรุ่น 1500XG ทำให้การตกปลามีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจาก 1500XG สามารถทำความเร็วในการเก็บสายได้เทียบเท่ากับ 2000HG

จุดเด่นของ 1500XG: รอกขนาดเล็ก แต่ความเร็วสูง

ความพิเศษคือ สามารถใช้งานด้วยรอกขนาดเล็กแต่ได้ความเร็วเทียบเท่ารอกขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้สะดวกและเบามือยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ Light Jigging ที่ต้องการความเร็วในการเคลื่อนที่ หรือแม้แต่การตกปลาในน้ำลึกที่ต้องการการควบคุมแบบเบาๆ ก็ทำได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้งานรอกขนาดใหญ่ได้อย่างมาก

2000NRMG: ตัวเลือกอเนกประสงค์ในงาน Jigging ใกล้ชายฝั่ง

รุ่น 2000NRMG คาดว่าจะกลายเป็นอัตราทดมาตรฐานสำหรับ Nearshore Jigging เนื่องจากในการตกปลาบริเวณน้ำลึกน้อยกว่า 100 เมตร การใช้งานรุ่น HG อาจมีความเร็วในการเก็บสายมากเกินไป ทำให้จิ๊กหมุนผิดจังหวะ ส่งผลให้ตกปลาได้ยาก ในทางกลับกัน หากใช้อัตราทด MG ซึ่งต่ำกว่า HG เล็กน้อย จะให้ความรู้สึกที่พอดีมากขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับใช้งานในน้ำตื้นถึงน้ำลึกระดับกลาง

2000NRXG: ความเร็วสูงที่นักตกปลารอคอย

ส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นกับรุ่น 2000NRXG เนื่องจากเป็นอัตราทดที่อยากได้มานาน การใช้งานในสถานการณ์ที่ปลากินยาก ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการกระตุ้นให้ปลาตอบสนอง ด้วยอัตราทด 7.0:1 ที่มีความเร็วในการเก็บสาย 132 ซม. ต่อรอบเทียบเท่ากับ Stella SW 14000XG นับว่าเป็นความเร็วที่น่าทึ่ง

ประโยชน์ในการใช้งาน

• การตกปลาน้ำลึก: เมื่อความลึกเพิ่มขึ้น สายที่ปล่อยออกทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของสปูลลดลง ส่งผลให้ความยาวการเก็บสายต่อรอบน้อยลง แต่ด้วยความเร็วของรุ่น XG ทำให้ยังคงความสามารถในการดึงจิ๊กไปในแนวนอนได้ดี

• การตกปลาด้วย Jig Action: ด้วยความเร็วที่สูง จะช่วยให้เหยื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ดึงดูดปลาให้กัดได้ง่ายขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่ปลากินยาก

ข้อดีจากการเพิ่มรุ่น MG และ XG

การเพิ่มรุ่น MG และ XG ทำให้ซีรีส์ Ocea Jigger มีอัตราทดให้เลือกถึง 7 แบบ ทั้งในขนาด 1500 และ 2000 ครอบคลุมการใช้งาน Jigging ใกล้ชายฝั่งทั้งหมด สามารถเลือกเกียร์ทดต่ำเพื่อจับปลาขนาดใหญ่ในน้ำตื้น หรือเลือกเกียร์ทดสูงเพื่อใช้ความเร็วในการกระตุ้นการกัดของปลา

ความยืดหยุ่นและโอกาสที่มากขึ้น

การมีตัวเลือกถึง 7 ระดับความเร็ว ทำให้สามารถปรับให้เหมาะกับการตกปลาที่แตกต่างกัน เช่น การตกปลาที่ใช้ Reaction Bite โดยใช้ความเร็วสูงเพื่อกระตุ้นการกัด หรือการตกปลาน้ำตื้นด้วยอัตราทดต่ำเพื่อดึงดูดปลาขนาดใหญ่ ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายนี้ ทำให้โอกาสในการตกปลาประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคย

การเพิ่มอัตราทดเฟืองและความเร็วหลากหลายเช่นนี้ จะช่วยให้นักตกปลาได้พบเจอกับปลามากขึ้น และทำให้เกม Jigging สนุกมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน