SPINNING REEL :

เทคโนโลยี “การตีขึ้นรูปโลหะเย็น” ด้วยแรงกดสูงโดยไม่ต้องกลึง ทำให้ได้เฟืองที่แข็ง แกร่ง ยืดหยุ่น และมีความแม่นยำระดับไมครอน ส่งผลให้การหมุนลื่นและนุ่มนวลเป็นพิเศษ

การใช้โลหะน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง เช่น อะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ช่วยลดการบิดตัวและคดงอของรอก ปกป้องเฟืองที่ละเอียด และทำให้หมุนสายได้ลื่นไหล

ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตเฟือง ทำให้พื้นที่สัมผัสระหว่างเฟืองขับและเฟืองพิเนียนกว้างขึ้น ช่วยกระจายแรงกดได้ทั่วถึง ลดความเสียหายเฉพาะจุด และเพิ่มความทนทานของเฟืองขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม (ตามมาตรฐานการทดสอบของบริษัท)

ระบบ “ซูเปอร์แน่น” ที่พัฒนาจากการพันสายแบบแน่นทั่วไป ด้วยการลดความเร็วการขึ้น-ลงของสปูลให้ช้าลงมาก ทำให้สายเรียงตัวบนสปูลอย่างเป็นระเบียบ ช่วยลดแรงต้านขณะสายออก และให้ฟีลการตีเหยื่อที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น

เปลี่ยนจากการพยุงเมนชาฟต์ด้วยเฟืองพินเนียน มาใช้บูชพิเศษลดแรงเสียดทาน ช่วยให้หมุนลื่นขึ้น พร้อมเคลือบผิวเมนชาฟต์ลดแรงบิด ทำให้รอกสามารถหมุนเก็บสายได้ดีแม้ภายใต้ภาวะโหลดหนัก

ติดตั้งแผ่นฟินยืดหยุ่นใกล้ไลน์โรลเลอร์ เพื่อลดการหย่อนของสาย ป้องกันสายหลุดลงใต้สปูลหรือพันกลับเข้าไปทั้งที่ยังบิดเกลียว

ผ้าเบรกแบบใหม่ที่ใช้วัสดุเสริมใยทอแนวขวาง เพิ่มความแข็งแรงโดยยังคงความลื่นไหลเดิม แต่เพิ่มความทนต่อการสึกหรอได้มากกว่า 10 เท่า (ตามการทดสอบของบริษัท)

Magnumlite Rotor ใช้โครงสร้างโรเตอร์แบบอสมมาตร ช่วยให้หมุนเบาขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมเพิ่มความไวและควบคุมง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังลดแรงเฉื่อยได้ด้วยการปรับน้ำหนักโรลเลอร์, ใช้เบลล์ไทเทเนียม และจัดสมดุลความหนาของโรเตอร์ใหม่ทั้งหมด

MicroModule Gear II คือเฟืองรุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยออกแบบฟันเฟืองใหม่ทั้งหมดให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Shimano ช่วยลดเสียงขณะหมุนและให้สัมผัสที่ลื่นนุ่มกว่าเดิม

สปูลออกแบบพิเศษด้วยรูปทรงขอบเฉพาะ ช่วยจัดแนวสายให้ไหลลื่น ลดปัญหาสายพัน และเพิ่มประสิทธิภาพการตีไกลในเวลาเดียวกัน

ออกแบบฟันเฟืองให้ละเอียดถึงขีดสุด เพื่อการส่งกำลังที่ลื่นและนุ่มนวล เสียงเงียบจนสัมผัสแรงกัดเบา ๆ ของปลาได้อย่างแม่นยำ

เพิ่มขนาดเฟืองขับ จัดวางเฟืองขับและพิเนียนอย่างเหมาะสม พร้อมรองรับพินเนียนด้วยลูกปืน 2 จุด ทำให้รอกหมุนได้ลื่นและมั่นคงแม้ภายใต้แรงโหลดสูง

X-Tough Drag รุ่นก่อนที่โดดเด่นด้านพลังเบรกและความทนทาน ได้ถูกพัฒนาต่อเป็น “Heat Sink Drag” ที่ทนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้แผงระบายความร้อนช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากชุดเบรก ลดปัญหาเบรกอ่อนเมื่อร้อน และใช้แผ่นฉนวนกันความร้อนป้องกันไม่ให้ความร้อนส่งต่อไปยังสายบนสปูล

ปรับปรุงการออกแบบทั้งตัวรอกและชิ้นส่วนขับเคลื่อนใหม่ทั้งหมด โดยกำจัดช่องว่างและการสั่นแม้เพียงเล็กน้อยในทุกจุด เช่น เฟืองขับ วอร์มชาฟต์ พินและเฟืองต่าง ๆ เพื่อให้ได้การหมุนที่ลื่นเงียบและนุ่มนวลในระดับใหม่

SUT ย่อมาจาก “Smooth UnTurned handle” เป็นระบบเบรกแบบใหม่ในรอกเลเวอร์เบรก ซึ่งต่างจากรุ่นเดิมที่มือหมุนจะหมุนย้อนเมื่อโรเตอร์หมุนกลับ แต่ SUT จะล็อกไม่ให้มือหมุนย้อนตอนสายวิ่ง ทำให้ควบคุมปลาง่ายขึ้น ลดการกระชาก และตั้งหลักได้เร็ว จึงรับมือกับปลาขนาดใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น

โรเตอร์น้ำหนักเบาที่ผลิตจากวัสดุ CI4+ ช่วยลดน้ำหนักโดยยังคงความแข็งแรง ลดแรงเฉื่อยและการสั่นหมุน ทำให้หมุนเริ่มต้นได้ไวแม้ใช้แรงเพียงเล็กน้อย พร้อมเพิ่มความไวในการรับสัมผัสและลดน้ำหนักรวมของรอก

ใส่ชิ้นส่วนยืดหยุ่นระหว่างคันเบรกกับเบรกชู เพื่อลดการเปลี่ยนแรงเบรกแบบฉับพลัน ให้ปรับได้ลื่นและต่อเนื่อง ควบคุมการเคลื่อนไหวของปลาซีแบสได้เนียนขึ้น ลดโอกาสหลุดเบ็ดและปัญหาสายพัน

ซีลแน่นหนาทั่วจุดสำคัญ เช่น รอยต่อบอดี้ ฝาครอบ สปูล และปุ่มแดรก เพื่อป้องกันน้ำเข้า เพิ่มความทนทานและเชื่อถือได้สูงแม้ใช้งานในสภาพทะเลที่โหดที่สุด

สำหรับรอกสปินนิ่งขนาดกลาง-เล็ก ที่ต้องการหมุนลื่นเป็นพิเศษ จะใช้โครงสร้างกันน้ำแบบ “ไม่สัมผัส” โดยผสานการเคลือบกันน้ำเข้ากับโครงสร้างแบบเขาวงกต (Labyrinth) ช่วยกันน้ำได้ดีโดยไม่เพิ่มแรงต้านการหมุน ใช้ในจุดสำคัญ เช่น ลูกปืนสต็อปเปอร์และไลน์โรลเลอร์

สำหรับรอกน้ำเค็มขนาดใหญ่ ที่ต้องการการกันน้ำขั้นสูง จะใช้ระบบซีลแบบ “สัมผัส” ด้วยวัสดุซีลแรงเสียดทานต่ำ ป้องกันน้ำเค็มเข้าโดยตรง และยังคงความลื่นในการหมุน จุดสำคัญเช่นลูกปืนสต็อปเปอร์มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX8

ด้วยการเคลือบผิวแบบไล่น้ำ ทำให้น้ำเกาะตัวเป็นหยดและไม่ซึมผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ช่วยกันน้ำได้โดยไม่เพิ่มแรงต้านการหมุน และเพราะเป็นระบบไม่สัมผัส จึงไม่สึกหรอและคงประสิทธิภาพการกันน้ำได้นาน

วอชเชอร์ทำจากโลหะและคาร์บอนเท่านั้น รองรับสปูลทั้งด้านบนและล่าง เพิ่มความทนความร้อนและความทนทาน ส่งผลให้ระบบเบรกทำงานลื่นและเสถียรยิ่งขึ้น

ชิ้นส่วนเบรกทั้งหมดใช้วัสดุโลหะและวอชเชอร์คาร์บอนชนิดทนสึกหรอ โดยใช้วอชเชอร์คาร์บอนขนาดใหญ่ทั้งด้านบนและล่างของสปูล ช่วยเพิ่มความเสถียร ทนทาน และลดปัญหาเบรกอ่อนจากความร้อนเมื่อสปูลหมุนภายใต้แรงตึงสูง

ย้ายชุดกลไกเลื่อนสปูลไปไว้ด้านบนของตัวรอก ทำให้จุดศูนย์ถ่วงใกล้มือมากขึ้น ช่วยให้รอกสมดุลกับคันเบ็ดมากขึ้น ลดความเมื่อยล้าเวลาเหวี่ยง และควบคุมคันได้ง่ายขึ้น

จัดแนวสปูลให้ขนานกับคันเบ็ดโดยไม่เปลี่ยนตำแหน่งรอก ช่วยให้สายไม่ฟาดคันขณะตี ทำให้สายออกลื่นขึ้น และเพิ่มระยะการเหวี่ยงได้มากขึ้น

ระบบสโลว์ออสซิลเลชันที่สปูลเคลื่อนที่ขึ้น-ลงหนึ่งรอบ แต่พันสายได้ถึง 100 รอบ ช่วยจัดสายแน่น ลดแรงต้านขณะตี และเพิ่มระยะการเหวี่ยงได้มากขึ้น

สปูลออกแบบแบบ Long Stroke โดยเพิ่มความยาวส่วนพันสาย ช่วยให้ออกลดน้อยและช้าลงขณะตีช่วงท้าย ส่งผลให้ตีได้ลื่นมือและระยะไกลขึ้น

วัสดุคาร์บอนรุ่นใหม่ที่พัฒนาจาก CI4 ยังคงความเบา แต่เพิ่มความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น ทำให้รอกมีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรองรับสปูลด้วยลูกปืน 2 จุดที่เมนชาฟต์และภายในสปูล ช่วยลดการแกว่งของสปูล ทำให้ระบบเบรกทำงานได้ลื่นและนิ่งอย่างสม่ำเสมอ

ระบบนี้ปรับแรงเบรกได้ไวตามการหมุนของปุ่มแดรก เหมาะมากในจังหวะที่ต้องหยุดปลาใกล้สิ่งกีดขวาง หรือเมื่อปลาพุ่งแรงใกล้ตัว ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ทันที

ใช้แหวนเบรกพิเศษที่ช่วยให้ปรับแรงเบรกจากต่ำสุดถึงสูงสุดได้ภายในการหมุนปุ่มเพียง 1 รอบ เหมาะกับการตกปลาวางคันที่ต้องปรับเบรกเร็ว

เคลือบลูกปืนด้วยสารกันสนิมพิเศษ เพิ่มความทนทานต่อการเกิดสนิมอย่างมาก และในรุ่น S A-RB ยังซีลด้านข้างด้วยวัสดุกันสนิม ลดการจับตัวของเกลือภายในลูกปืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตเบลล์แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อได้สำเร็จ ช่วยให้ดูสวยงามและลดปัญหาสายสะดุดหรือเกี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากเดิมเบรกโรเตอร์ทำงานเพียงจุดเดียว ระบบใหม่นี้เปลี่ยนเป็นเบรกสองจุดเข้าประกบ ช่วยเพิ่มแรงเบรกสูงสุดและความทนทาน เหมาะสำหรับรอกเลเวอร์เบรกขนาดใหญ่

เคลือบผิวรอกด้วยสารพิเศษที่ช่วยกันน้ำและคราบสกปรก ลดการเกาะของสิ่งสกปรกได้อย่างมาก และหากเลอะก็สามารถล้างออกง่ายด้วยน้ำเปล่า

SUT เบรกที่ป้องกันมือหมุนหมุนย้อนขณะสายวิ่ง ได้รับการพัฒนาเป็น SUT เบรก II ปรับปรุงการทำงานของมือหมุนให้ลื่นยิ่งขึ้น ช่วยปล่อยสายได้อย่างนุ่มนวล และตั้งหลักได้รวดเร็วแม้ต้องรับมือกับปลาขนาดใหญ่

ออกแบบให้สมดุลระหว่างความแข็งแรงและน้ำหนักเบา เพื่อลดการบิดตัวของรอกจากแรงเหวี่ยงขณะตี ช่วยให้ปล่อยสายได้แม่นยำขึ้น ส่งผลให้ทั้งระยะและความแม่นยำในการตีเหยื่อดีขึ้น